วันอาทิตย์ที่ 23 มกราคม พ.ศ. 2554

WAL-MART GRAPPLES WITH RFID

WAL-MART GRAPPLES WITH RFID
     วอลมาร์ท ต่อสู้กับการบกวนของคลื่นวิทยุในหลายๆความถี่ (RFDI)1 ก.พ. 2005 วอลมาร์ทเริ่มต้นบทบาทครั้งแรกกับการใช้การรบกวนของคลื่นวิทยุในหลายๆความถี่ (RFDI)ใน 7 ร้านค้าในเท็กซัส
     วอลมาร์ทได้สั่งให้ผู้จัดหาอันดับต้นๆให้วางการรบกวนของคลื่นวิทยุในหลายๆความถี่ (RFDI) ติดตามสินค้าทุกชนิดที่ถูกส่งไปยังศูนย์กระจายสินค้าวัตถุประสงค์คือ ลดสินค้าในสต็อคโดยตรวจสอบสถานที่ของสินค้าอย่างถูกต้องมากขึ้นเหมือนสินค้าถูกเคลื่อนย้ายจากท่าเรือรับสินค้าไปสู่ชั้นวางสินค้าวอลมาร์ท ต้องการตัวอ่านการรบกวนของคลื่นวิทยุในหลายๆความถี่ถูกติดตั้งในการบันทึกข้อมูลที่ถูกส่งโดยปลายทางของคลื่นวิทยุในหลายๆความถี่ (RFDI) ตัวอ่านข้อมูลนี้จะอ่านสิ่งต่อท้ายเป็นครั้งที่สอง เช่น บรรจุหีบต่างๆถูกส่งจากบริเวณห้องเก็บของหลังห้องไปยังชั้นของแผนกขาย ซอฟท์แวร์นี้จะใช้ข้อมูลการขายจากระบบจุดการขายของวอลมาร์ท และข้อมูล คลื่นวิทยุในหลายๆความถี่ (RFDI)ที่เกี่ยวกับจำนวนบรรจุหีบต่างๆที่ถูกส่งไปเปิดเผยของชั้นแผนกขายไปแก้ไขปัญหาว่าสิ่งใดจะเสร็จสิ้นลงและสร้างรายชื่อสิ่งของอย่างอัตโนมัติในการเลือกเติมสินค้าให้เต็มชั้นวางในคลังสินค้า ข้อมูลนี้จะช่วยให้วอลมาร์ทลดการสต็อกสินค้า,เพิ่มยอดขาย และ ลดต้นทุนวอลมาร์ทกำลังแบ่งข้อมูล ทั้งหมดกับซัพพลายเออร์ผ่านระบบระบบรีเทลลิ้งเอ็กซ์ตร้าเน็ท คลื่นวิทยุในหลายๆความถี่ (RFDI)ปรับปรุงการจัดการรายการสินค้า เนื่องจากซัพพลายเออร์รู้อย่างถูกต้องว่าสินค้าตั้งอยู่ที่ไหนภายใน30วินาทีจากที่ใดของวอลมาร์ทไปยังอีกที่หนึ่ง ยอดขายดีขึ้นเนื่องจากระบบจัดการให้วอลมาร์ทมีสินค้าในสต็อกทั้งๆที่คุณประโยชน์เหล่านี้
     การใช้คลื่นวิทยุในหลายๆความถี่ (RFDI)ไม่เป็นไปตามแผนการที่วางไว้ในช่วงปลายปี ค.ศ.2004วอลมาร์ท อุปสงค์ดั้งเดิม ซัพพลายเออร์ที่ต้องแนบส่วนท้ายของคลื่นวิทยุในหลายๆความถี่ (RFDI)ที่จำนวน 65% ของสินค้า ถึงแม้ว่าซัพพลายเออร์ไม่ทั้งหมด สามารถยินยอมแค่ 30% ที่ทำจากเทคโนโลยีส่วนใหญ่และการเปลี่ยนแปลงกระบวนการทางธุรกิจในการบูรณาการคลื่นวิทยุในหลายๆความถี่ (RFDI)ไปสู่โครงสร้างพื้นฐานเทคโนโลยีสารสนเทศแลระบบข้อมูลข่าวสาร จำนวนที่เหลือกำลังปฏิบัติสิ่งที่เรียกว่า ตบหน้าและส่ง ติดส่วนท้ายของ คลื่นวิทยุในหลายๆความถี่ (RFDI)กับจำนวนเล็กน้อยของบรรจุหีบต่างๆและพาเลทที่ถูกทำเครื่องหมายไว้สำหรับวอลมาร์ท คุณประโยชน์เหล่านี้ไม่ได้สร้างการเปลี่ยนแปลงที่คืบหน้าให้แก่ระบบเพื่อว่าพวกเขาสามารถใช้ข้อมูลที่ถูกสร้างขึ้นโดยคลื่นวิทยุในหลายๆความถี่ (RFDI)ดึงสินค้าคงคลังออกมาทำไมซัพพลายเออร์ทั้งหลายต่างต่อต้านการใช้คลื่นวิทยุในหลายๆความถี่ (RFDI)?นักวิเคราะบางอุสาหกรรมเชื่อว่า วอลมาร์ทพยายามบังคับให้ซัพพลายเออร์ในการใช้คลื่นวิทยุในหลายๆความถี่ (RFDI)ก่อนที่เทคโนโลยีใช้การได้และคุ้มค่าคุ้มราคาพวกเราไม่มีกรณีศึกษาทางธุรกิจสำหรับคลื่นวิทยุในหลายๆความถี่ (RFDI)” กล่าวอ้างโดยผู้บริหารซัพพลายเชนให้กับหนึ่งในผู้ผลิตสินค้าอุปโภคบริโภคใหญ่ที่สุดในโลก เนื่องจากมาตรฐานไม่สมบูรณ์แบบ เครื่องมือไม่พัฒนา ผมไม่สามารถเติมเต็มและตอบสนองความต้องการของวอลมาร์ทได้ส่วนท้ายของคลื่นวิทยุในหลายๆความถี่ (RFDI)ในปี 2005 เพิ่มต้นทุนให้แก่ซัพพลายเออร์ระหว่าง 25และ 75 เซ็นต์ ยังคงแพงเกินไป การติดป้ายชื่อคลื่นวิทยุในหลายๆความถี่ (RFDI)หีบห่อบรรจุสินค้าอาจเพิ่มต้นทุนให้แก่ซัพพลายเออร์อย่างง่ายดายถึง 40-50 เซ็นต์ต่อหีบห่อ ต่อหนึ่งป้ายสินค้าราคาประมาณ 20-30เซ็นต์ ซัพพลายเออร์รายใหญ่กล่าวว่าบรรจุภัณฑ์และพาเลทจำนวน15ล้านหีบที่ถูกส่งไปยังวอลมร์ทแต่ละปีจะใช้เงินเพิ่มอีก 6 ล้านดอลล่าในการใช้ป้ายราคาวอลมาร์ทต้องการหีบห่อทั้งหมดบนพาเลทที่มีป้ายราคาและไม่ต้องแยกระหว่างหีบห่อที่บรรจุวิดีโอเกมส์หรือยาสีฟัน การติดป้ายราคาที่มีการใช้คลื่นวิทยุในหลายๆความถี่ (RFDI)จะเป็นการเพิ่มต้นทุนให้แก่ซัพพลายเออร์สินค้าที่มีต้นทุนต่ำมากกว่าซัพพลายเออร์สินค้าที่มีต้นทุนสูงนอกจากนี้ป้ายชื่อRFDI โดยเฉพาะอย่างยิ่งชนิดที่แพงน้อยที่สุด อาจทำงานอย่างไม่ถูกต้องเหมาะสม เมื่อTagsเป็นของเหลวมโลหะ หรือวัตถุที่ซึมได้ เด็กๆของKimberly-Clark เช็คสัญญาณคลื่นวิทยุ และยูนิลีเวอร์ก็มีปัญหาเหมือนกันเกี่ยวกับสินค้าที่บรรจุของเหลว เพื่อมั่นใจในความถูกต้องและการปฏิบัติงานที่เหมาะสม ซัพพลายเออร์อาจต้องใช้Tagsที่แพงมากกว่า การบูรณาการข้อมูลRFDIใหม่กับระบบมรดกตกทอดที่ขยายราคาให้แพงขึ้นการยอมรับความยากลำบากนี้ วอลมาร์ทกำลังทำงานกับซัพพลายเออร์อย่างส่วนตัวในการช่วยพวกเขาเร่งให้เร็วขึ้น ปัจจุบันวอลมาร์ทมีซัพพลายเออร์จำนวน300แห่งที่ใช้RFDI Tags ที่ติดบนหีบสินค้าและพาเลท วอลมาร์ทจำนวนมากกว่า 500 สาขาปฏิบัติต่อหีบสินค้าและพาเลทที่ติดRFDI Tagsจำนวนมากกว่า3ล้านชิ้นต่อสัปดาห์RFID ช่วยวอลมาร์ทลดจำนวนสต็อคสินค้าในร้านค้าได้30% ในฤดูใบไม้ผลิปี2005 เมื่อเปรียบเทียบกับปีก่อนหน้านี้ ในปี2006 บริษัทวอลมาร์ทคาดหวังที่จะติดตั้งตัวอ่าน RFDIที่ช่องรับและบนชั้นแผนกขายในร้านค้าเพิ่มเติมอีก500สาขา
คำถาม
1. How is RFID technology related to Wal-Mart 's business model? How does it benefit supplier?
สืบเนื่องจาก Wal-Mart มีแนวคิดที่จะใช้ RFID ในการช่วยบรรเทาปัญหาสินค้าขาดสต๊อกในร้านสาขาย่อยของบริษัท โดยเริ่มต้นทำการติดตั้งและใช้ระบบ RFID Tag นี้เมื่อวันที่ 1 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2548 ใน 7 ร้านสาขาย่อยที่อยู่ในรัฐเท็กซัส ซึ่ง Wal-Mart คาดหวังว่าเมื่อระบบนี้ประสบความสำเร็จจะทำให้บริษัทสามารถบริหารจัดการสินค้าคงคลังได้อย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งข้อมูลใน RFID นี้จะถูกรวบรวมและประมวลผลปรากฏบนจอคอมพิวเตอร์ให้บริษัททราบการเดินทางของสินค้าแต่ละรายการจากทุก Supplier ตั้งแต่โกดังที่ท่าเทียบเรือไปจนถึงชั้นวางสินค้าในร้านสาขาย่อย ข้อมูลที่มีประโยชน์เหล่านี้จะช่วยให้ Wal-Mart ลดปัญหาสินค้าขาดสต๊อก อีกทั้งยังช่วยเพิ่มยอดขายและลดต้นทุนในระยะยาวลงได้
ในแง่ของผลประโยชน์ที่ Supplier ของ Wal-Mart ทุกรายจะได้รับหากทำการติดตั้งและเข้าร่วมการใช้ระบบนี้กับบริษัทนั่นก็คือ คำสั่งซื้อและยอดขายที่เพิ่มขึ้นอย่างอัตโนมัติในทันทีที่สินค้าสต๊อกในระบบพร่องลงไป เนื่องจาก Wal-Mart จะแบ่งปันข้อมูลการค้าปลีกให้แก่ Supplier ที่เข้าร่วมผ่านทางโครงข่าย Extranet ของบริษัทโดยตรง ซึ่งจะทำให้ Supplier ทราบทันทีภายใน 30 นาที หลังจากสินค้ารายการนั้นๆมีการเคลื่อนที่จากจุดหนึ่งไปยังอีกจุดหนึ่ง สิ่งที่ Wal-Mart อนุญาตและยอมรับก็คือ การให้ Supplier ดังกล่าวทำการเติมเต็มสินค้ารายการนั้นๆได้ทันที
2.What management, organization, and technology factors explain why Wal-Mart suppliers had trouble implementing RFID systems?
หากมองในระยะสั้นแล้วจะเห็นว่า Transaction cost เพิ่มขึ้นซึ่ง Wal-Mart ไม่ได้ร่วมรับผิดชอบกับค่าใช้จ่ายที่เพิ่มขึ้นแต่ในทางตรงข้ามกับผลักภาระนี้ให้กับ Supplier รับผิดชอบเพียงฝ่ายเดียว กอร์ปกับต้องใช้ระบบนี้ในขณะที่เทคโนโลยี RFID ยังอยู่ในช่วงที่กำลังพัฒนาซึ่งยังไม่สิ้นสุดและสมบูรณ์แบบ ซึ่งอาจหมายความว่า Supplier อาจต้องมีการลงทุนเพิ่มในการปรับปรุงระบบในอนาคตก็เป็นได้ อีกทั้งต้นทุนต่อหน่วยของระบบ RFID ในขณะนั้นก็ยังมีราคาแพงซึ่งอยู่ระหว่าง 25-75 เซ็นต์ต่อชิ้น ยิ่งไปกว่านั้นในสินค้าบางประเภท เช่นของเหลว โลหะ หรือสินค้าอุปโภคบริโภคที่ใช้กับทารก ก็มีความอ่อนไหวที่จะนำระบบนี้ไปใช้ เนื่อง RFID ทำงานอยู่บนคลื่นความถี่วิทยุซึ่งสามารถจะถูกดูดซึมและปะปนอยู่บนตัวสินค้าเหล่านี้ได้ซึ่งส่งผลกระทบกับความมั่นใจของผู้บริโภค นั่นหมายความว่าการที่ต้องใช้เงินลงทุนเพิ่มเข้าไปแก้ปัญหาโดยการใช้ RFID ที่มีประสิทธิภาพสูงยิ่งขึ้น ซึ่งประสิทธิภาพย่อมแปรผันตรงกับราคาที่จะย้อนกลับมาเป็นต้นทุนของ Supplier แต่ละราย
3.What conditions would make adopting RFID more favorable for suppliers?
Wal-Mart ควรมีส่วนร่วมในการรับผิดชอบค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นจากการติดตั้งและบังคับใช้ระบบ RFID ซึ่งจะใช้วิธีการใดก็ได้เพื่อให้เป็นธุรกิจแบบ Win-Win
ควรเริ่มเมื่อเทคโนโลยี RFID ได้รับการพัฒนาจนถึงจุดที่สามารถสร้างความมั่นใจให้กับทั้งผู้ผลิตและผู้บริโภคว่าไม่มีผลกระทบใดๆต่อสุขภาพ รวมถึงการพัฒนาปรับปรุงในแง่ของต้นต่อหน่วยให้ลดต่ำลงเพื่อไม่ให้ส่งผลกระทบต่อราคาสินค้ามากนัก
4.Should Wal-Mart require all its suppliers to use RFID? Why or why not? Explain your answer.
หากมองในมุมของผู้สนับสนุนวัตถุดิบหรือสินค้า (Supplier) ให้แก่ Wal-Mart ในระยะยาวก็คงจะเห็นด้วยและสนับสนุนแนวคิดที่จะใช้ RFID แทน Barcode แบบเก่า เนื่องจากจะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการบริหารจัดการสินค้าคงคลังและรวมถึงรายได้ที่จะเพิ่มขึ้นในอนาคต
แต่ถ้ามองในแง่ของผู้บริโภคก็คงไม่เห็นด้วยในขณะนี้จนกว่า Wal-Mart จะมีคำตอบที่เหมาะสมให้กับ 2 คำถามดังต่อไปนี้
1.ภาระค่าใช้จ่ายที่เพิ่มขึ้นอันเนื่อมาจากการ Implement ระบบ RFID จะถูกรับผิดฃอบโดยใคร หรือจะผลักภาระไปให้ผู้บริโภคด้วยการบวกเพิ่มเข้าไปในราคาสินค้า
2.RFID ทำงานด้วยคลื่นความถี่วิทยุ อยากทราบว่ามีงานวิจัยอะไรหรือไม่ที่สนับสนุนว่าคลื่นความถี่วิทยุเหล่านั้นไม่มีผลต่อสุขภาพของผู้บริโภค เช่นอาหารหรือผลิตภัณฑ์ที่ใช้สำหรับทารกหรือผู้ป่วยหากประเด็นเหล่านี้ได้รับการชี้แจงคงทำให้ผู้บริโภคปลายน้ำรับรู้และช่วยในการตัดสินใจซื้อสินค้า
 
 
 


เทคโนโลยี Hardware และ Software สำหรับองค์การยุคดิจิตอล

เทคโนโลยี Hardware และ Software สำหรับองค์การยุคดิจิตอล
เทคโนโลยี Hardware และ Softwareในปัจจุบันมีความต้องการอย่างท่วมท้นในการลดมูลค่าโครงสร้างหลักไอทีลง การบูรณาการข่าวสารข้ามโครงสร้างพื้นฐานแบบต่าง ๆ และความสามารถในการนำเสนอความอ่อนตัวและความสามารถในการให้บริการแก่องค์กรและลูกค้าในระดับที่สูงขึ้น การบูรณาการการประมวลผลและโครงสร้างพื้นฐานในการสื่อสารข้อมูล การประมวลผลแบบกริด การประมวลผลแบบเอจ และการประมวลผลตามความต้องการได้แสดงให้เห็นว่าการประมวลผลในยุคใหม่ต้องอาศัยการทำงานผ่านระบบเครือข่ายมากยิ่งขึ้น การประมวลผลแบบกริดมีความเกี่ยวข้องกับการเชื่อมโยงทางภูมิศาสตร์ของเครื่องคอมพิวเตอร์ที่อยู่ห่างไกลจากกันเข้าเป็นระบบเครือข่ายเพียงระบบเดียวเพื่อประกอบกันเป็นการประมวลผลแบบกริดที่รวมเอาพลังอำนาจในการประมวลผลของเครื่องคอมพิวเตอร์ทั้งหมดบนระบบเครือข่ายเข้ามาช่วยกันแก้ปัญหาการประมวลผลสำหรับปัญหาขนาดใหญ่ การประมวลผลแบบเอจทำให้เกิดความสมดุลของปริมาณงานที่ต้องประมวลผลงานสำหรับงานประยุกต์บนเว็บด้วยการกระจายส่วนต่าง ๆ ของเว็บ ตรรกะ และการประมวลผลไปให้แก่เซิร์ฟเวอร์ทั้งหลาย การประมวลตามความต้องการก็ขึ้นอยู่กับการเชื่อมต่อระบบเครือข่ายเช่นกันเพื่อให้องค์กรธุรกิจสามารถซื้อความสามารถในการประมวลผลจากองค์กรที่บริการเครื่องคอมพิวเตอร์ขนาดใหญ่ และเพื่อให้จัดส่งความสามารถในการประมวลผลมาได้ทันเวลาที่ต้องการผ่านระบบเครือข่าย ในระบบการประมวลผลโดยอัตโนมัติ ระบบคอมพิวเตอร์มีขีดความสามารถในการปรับแต่งได้โดยอัตโนมัติและยังสามารถซ่อมแซมตนเองได้ด้วย